เลือกตั้งท้องถิ่น 9 รายการ

      การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 9 รายการของไต้หวันในวันนี้ (26 พ.ย.) ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) รักษาตำแหน่งได้แค่ 2 นคร ได้แก่ผู้ว่าการนครเกาสงและนครไถหนาน ขณะที่พรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านคว้าไป 4 นคร ได้แก่ผู้การกรุงไทเป นครนิวไทเป นครเถาหยวน และผู้ว่าการนครไทจง ส่วนเมืองอื่น ๆ พรรครัฐบาลได้เพียง 3 ที่นั่ง ได้แก่เมืองเจียอี้ ผิงตงและเผิงหู ส่วนพรรคก๊กมินตั๋งคว้า 9 เมือง ได้แก่ จีหลง อี๋หลาน ฮัวเหลียน ไถตง เมืองซินจู๋ หนานโถว จางฮั่ว หยุนหลิน และเหลียนเจียง ขณะที่เทศบาลเจียอี้ เลื่อนการเลือกตั้งไปเป็นเดือนธันวาคม

      ต่อผลการเลือกตั้งดังกล่าว ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินกล่าวว่า ขอบคุณการสนับสนุนและเสียงท้วงติง ผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง พรรครัฐบาลยอมรับผลการตัดสินของชาวไต้หวัน

      ไต้หวันจัดให้มีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 9 รายการในวันนี้ (26 พ.ย.) ผลการเลือกตั้งปรากฎว่า ในส่วนของผู้ว่าการ 6 นคร พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) รักษาตำแหน่งได้แค่ 2 นคร ได้แก่ผู้ว่าการนครเกาสง นายเฉินฉีม่ายและผู้ว่าการนครไถหนาน นายหวงเหว่ยเจ๋อ ขณะที่พรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านคว้าไป 4 นคร ได้แก่ผู้การกรุงไทเป นายเจี่ยง ว่านอัน ผู้การนครนิวไทเป นายโหวโหย่วอี๋ (รั้งตำแหน่งต่ออีก 1 สมัย) ผู้ว่าการนครเถหยวน นายจางซ่านเจิ้ง และผู้ว่าการนครไทจง นางหลูซิ่วเยี่ยน (รั้งตำแหน่งต่ออีก 1 สมัย)

      ส่วนเมืองอื่น ๆ พรรครัฐบาลได้เพียง 3 ที่นั่ง ได้แก่เมืองเจียอี้ ผิงตงและเผิงหู ส่วนพรรคก๊กมินตั๋งคว้า 9 เมือง ได้แก่ จีหลง อี๋หลาน ฮัวเหลียน ไถตง เมืองซินจู๋ หนานโถว จางฮั่ว หยุนหลิน และเหลียนเจียง ขณะที่เก้าอี้ของเทศบาลเมืองซินจู๋ตกเป็นของผู้สมัครจากพรรค TPP ส่วนเหมียวลี่และจินเหมินเป็นของผู้สมัครอิสระ ส่วนเทศบาลเจียอี้ (เลื่อนการเลือกตั้งไปเป็นเดือนธันวาคม)

      นักวิเคราะห์ด้านการเมืองกล่าวว่า ความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในการเลือกตั้งครั้งนี้ของรัฐบาลพรรค DPP ครั้งนี้ มาจากความไม่พอใจผลการบริหารประเทศ ความไม่โปร่งใสและด้อยประสิทธิภาพในการเตรียมการและควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลฯลฯ

      ทั้งนี้ การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเมื่อปี 2018 ซึ่งจัดเป็นปีที่ผลการเลือกตั้งแย่ที่สุดของพรรค DPP ยังได้ที่นั้งผู้ว่าการ 6 เมือง ครั้งนี้ลดลงเหลือ 5 เมือง

     วันนี้ (26 พ.ย.) คนไต้หวันออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างคึกคัก โดยก่อนปิดหีบเลือกตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวันได้รับรายงานแจ้งการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจากทั่วประเทศ 45 รายการ ในจำนวนนี้แบ่งเป็นการฉีกบัตรเลือกตั้งกับนำบัตรเลือกตั้งออกนอกคูหา 24 รายการ และนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในคูหาเลือกตั้ง 14 ราย ซึ่งการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการนำบัตรเลือกตั้งออกนอกคูหาจะมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 15,000 เหรียญไต้หวัน ส่วนการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการจงใจฉีกบัตรลงคะแนนจะมีระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000-50,000 เหรียญไต้หวัน

     นอกจากนี้จนถึงวันที่ 25 พ.ย. สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบจับกุมคดีติดสินบนและทุจริตการเลือกตั้งรวมทั้งหมด 602 รายการ และคดีตั้งโต๊ะพนันผลการเลือกตั้งอีก 66 รายการ ซึ่งสำนักงานตรวจแห่งชาติได้จัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 75,000 นาย กระจายไปยังเขตพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยดูแลตรวจสอบความปลอดภัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย

การเลือกตั้งท้องถิ่น 9 รายการ คืนวันที่ 25 ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง พรรคดีพีพี นอกจากจัดเวทีปราศรัยหาเสียงที่นครไทจง จางฮั่ว หนานโถว ปธน. ไช่อิงเหวิน ในฐานะหัวหน้าพรรค วิ่งรอกช่วยลูกพรรคหาเสียงในภาคเหนือที่ นครเถาหยวน นครนิวไทเป สุดท้ายจะกลับมาสนับสนุนนายเฉินสือจง ที่กรุงไทเป

พรรค KMT นายหงเมิ่งไข่ (洪孟楷) ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์บอกว่า จะมีการจัดถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ TVBS ช่อง 56 เผยแพร่การหาเสียงในกรุงไทเป นครนิวไทเป นครเถาหยวน นครไทจง และนครเกาสง

ส่วนนายเคอเหวินเจ๋อ หัวหน้าพรรค Taiwan People's Party (TPP) จะไปหาเสียงที่เมืองซินจู๋ และจะกลับมาที่กรุงไทเปในเวลา 21.00 เพื่อช่วยหาเสียงให้แก่ หวงซันซัน ซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการกรุงไทเปในปัจจุบัน

คณะกรรมการเลือกตั้งกลางแถลงในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 แจ้งข้อควรระวังในวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง  หลี่จิ้นหย่ง (李進勇) ประธาน กกต. แถลงว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่ามีจำนวน 18,967,771 คน ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนประชามติสนับสนุนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ผู้อายุ 18 ปีมีสิทธิ์เลือกตั้งได้ มีจำนวน 19,239,392 คน ส่วนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงครั้งแรก 760,000 คน ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่จัดให้ลงประชามติเพื่อสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอเรียกร้องให้ประชาชนรักษาสิทธิ์ของตน

หลี่จิ้นหย่งกล่าวว่า วันที่ 26 พฤศจิกายน นอกจากผู้รับสมัครเลือกตั้งแล้ว บุคคลใดๆ สามารถประชาสัมพันธ์การลงประชามติได้ แต่ห้ามรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นอกจากนี้ กกต. เตือนว่าอย่านำบัตรออกจากคูหาเลือกตั้ง อย่าฉีกทำลายบัตรเลือกตั้ง มิฉะนั้นจะถูกปรับ

ประธาน กกต. กล่าวด้วยว่า ในวันที่  26 พฤศจิกายน ศกนี้ เปิดให้ลงคะแนนเสียงตั้งแต่ 8.00  - 16.00 น. ขอเตือนด้วยว่า ตามกฎหมายในวันเลือกตั้งห้ามรณรงค์หาเสียงในโซเชียลมีเดีย รวมทั้งในกลุ่ม FB และ line ตั้งแต่ 0 น. ของวันที่ 26 พฤศจิกายน ห้ามโพสต์ ห้ามแชร์เชียร์ผู้รับสมัครเลือกตั้ง ผู้ฝ่าฝืน มีความผิดปรับ 5 แสน ถึง 5 ล้านเหรียญไต้หวัน สำหรับการจัดกิจกรรมหาเสียงต่อสาธารณะจะต้องยุติในเวลา 22:00 น. ของวันที่ 25 พฤศจิกายน แต่ถ้าต้องการหาเสียงระหว่างเวลา 22.00-23.59 น. ต้องไม่เป็นการจัดกิจกรรมหาเสียงต่อสาธารณะและต้องไม่ส่งผลต่อความสงบของสังคมด้วย

การเลือกตั้งท้องถิ่นในไต้หวันกำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 26 พฤศจิกายน เมืองเจียอี้ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรน้อยเนื่องจากเป็นสังคมวัยชรา คนหนุ่มสาวออกไปทำงานนอกถิ่น มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 422,568 คน แบ่งเป็น 18 ตำบล มีคูหาเลือกตั้ง 532 แห่ง คูหาที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสูงสุดคือ ศาลเจ้าเซียนเทียนกง (先天宮) ตำบตงสือ (東石鄉) จำนวน 1,862 คน ส่วนคูหาที่มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งน้อยที่สุดคือ ศูนย์กิจกรรมเต๋อเอินหย่าน่า (得恩亞納) หมู่บ้านสือจื้อ (十字村) ตำบลอาลีซาน (阿里山鄉) มีเพียง 76 คน คาดว่าจะลงคะแนนและนับคะแนนเสร็จเร็วที่สุด โดยทั้ง 2 แห่ง มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งห่างกันถึง 1,786 คน นับเป็นความแตกต่างอย่างยิ่ง

คูหาเลือกตั้ง “เต๋อเอินหย่าน่า” ถือเป็นแดนลี้ลับบนภูเขาความสูง 1,400 เมตร เป็นหมู่บ้านชนเผ่าโจว (鄒族- -Tsou) มีบ้าน 42 หลัง หลังคารูปทรงพนมมือ มีสีสันหลากหลาย ได้รับฉายา “หมู่บ้านพนมมือฉบับไต้หวัน” เนื่องจากรูปทรงหลังคาคล้ายกับหมู่บ้านโบราณชิราคาวาโกะ จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีผู้คนนิยมไปเที่ยวกันมาก

        หลังเกิดภัยไต้ฝุ่น มรกต เดือนสิงหาคม ปี 2009 หมู่บ้านแห่งนี้เสียหายหนักบ้านเรือนพังเสียหาย ทางการได้ช่วยสร้างบ้านใหม่ให้แก่ชาวบ้าน มีการจัดตั้งลานชมทิวทัศน์ ศูนย์กิจกรรม โบสถ์ ชาวบ้านตกแต่งประตูทางเข้าแต่ละบ้านด้วยศิลปะ มีการบันทึกเรื่องราวที่น่าสนใจแตกต่างกัน นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปแล้วเหมือนกับเข้าไปในดินแดนเทพนิยาย น่าตื่นตาตื่นใจ

     กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันเผยว่า วันที่ 24-25 ก.ย. นี้ อิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและกลุ่มเมฆฝนที่เคลื่อนตัวมาจากตอนใต้ของจีน ส่งผลให้พื้นที่ตั้งแต่ภาคกลางขึ้นมาจนถึงภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนตกกระจายเป็นหย่อมๆ จนถึงฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนภาคอื่นๆ มีโอกาสเกิดฝนตกประปราย จากนั้นวันที่ 26 พ.ย. ซึ่งตรงกับวันเลือกตั้งท้องถิ่น 9 รายการ ปริมาณไอน้ำในอากาศจะลดลง ส่งผลให้ทุกพื้นที่มีฝนลดลง อากาศเปลี่ยนเป็นมีเมฆมาก ท้องฟ้าปลอดโปร่ง มีแสงแดดจัด ต่อมาวันที่ 27-29 ก.ย. ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืออ่อนกำลังลง พื้นที่ส่วนใหญ่จึงมีเมฆมากถึงท้องฟ้าปลอดโปร่ง แต่อาจมีพื้นที่ภูเขาบางส่วนของกรุงไทเปและภาคตะวันออกตอนบนที่มีโอกาสเกิดฝนตกประปราย

     ทั้งนี้จากการสังเกตแบบจำลองสภาพภูมิอากาศ จะมีลมมรสุมตะวันออกเฉียงกำลังแรงขึ้นอีกระลอกเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมไต้หวัน แม้ว่าจะยังมีช่องว่างของการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสัปดาห์นี้อุณหภูมิจะลดลงชัดเจนสัมผัสได้ถึงอากาศหนาวเย็น คาดว่าพื้นที่ตั้งแต่ภาคกลางขึ้นมาจนถึงภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือน่าจะมีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 19-20 องศาเซลเซียส โดยจะมีสภาพอากาศหนาวเย็นแบบนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. จากนั้นจึงจะค่อยๆ กลับมาอบอุ่นขึ้น

     ไต้หวันมีกำหนดการเลือกตั้งท้องถิ่น 9 รายการพร้อมกับการลงคะแนนเสียงรับรองร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้พลเมืองที่อายุ 18 ปีบริบูรณ์มีสิทธิ์เลือกตั้ง โดยเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน คณะกรรมการการเลือกตั้งไต้หวัน แถลงข่าว ประกาศจำนวนของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งตำแหน่งผู้ว่าการเมือง/จังหวัดรวม 18,967,771 คน ในจำนวนนี้ไม่รวมผู้มีสิทธิเลือกตั้งซ่อมผู้ว่าการเมืองเจียอี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเมือง/จังหวัด 19,128,745 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกำนัน 5,056,609 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้แทนประชาชน ผู้แทนหมู่บ้าน  5,050,920 คน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน 19,026,280 คน

     นอกจากนี้ กกต.ไต้หวันกล่าวว่า มีผู้มีสิทธิลงประชามติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 19,239,392 คน ตามบทบัญญัติของการแก้ไขรัฐธรรมนูญสาธารณรัฐจีน กำหนดว่าต้องได้คะแนนเห็นด้วยเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด จึงจะผ่านการลงประชามติ ดังนั้น การลงประชามติแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ลดอายุผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งจาก 20 ปีเหลือ 18 ปีบริบูรณ์ ต้องมีคะแนนเสียงเห็นด้วย 9,619,697 จึงจะผ่านการรับรอง 

          ไต้หวันจะจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันเสาร์ที่ 26 พ.ย. ศกนี้ โดยมีระเบียบว่า ต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันโรคของรัฐบาล แต่หน้ากากอนามัยที่ใช้ ห้ามมีชื่อ หมายเลขหรือสัญลักษณ์ใด ๆ ที่ระบุถึงผู้สมัครรับเลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังห้ามนำเอกสารที่เกี่ยวกับการลงประชามติ หรือสวมเสื้อที่มีสัญลักษณ์ของผู้สมัครรับเลือกตั้งเข้าคูหาด้วย 

          คณะกรรมการเลือกตั้ง ไต้หวันได้ออกแถลงข่าวเตือนผู้จะใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งที่จะถึงนี้คือวันเสาร์ที่ 26 พ.ย. ต้องสวมหน้ากากอนามัยที่ไม่มีตราสัญลักษณ์ของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และต้องนำใบแจ้งใช้สิทธิเลือกตั้ง ตราประทับชื่อส่วนตัวของผู้ใช้สิทธิ และบัตรประจำตัวประชาชน ไปใช้สิทธิในคูหา ตามกำหนดเวลา 8.00-16.00 น. 

         ส่วนการลงประชามติในช่วงเวลาเดียวกัน ก็ห้ามนำเอกสารหรือสัญลักษณ์ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการลงประชามติ ซึ่งรวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือการลงประชามติเข้าไปในคูหาเช่นเดียวกัน 

     นายหวังปี้เซิ่ง(王必勝) ผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการควบคุมโรค (CECC) กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน เมื่อหักจำนวนประชากรอายุต่ำกว่า 20 ปีที่ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอยู่แล้ว คาดว่ายังมีประชาชนประมาณ 5-7 หมื่นคน ไม่สามารถออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่น 9 รายการ ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ได้ เนื่องจากติดเชื้อไวรัสโควิด-19

     สื่อตั้งคำถามว่าประชาชนผลตรวจเป็นบวก แต่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ มีกฎหมายที่ห้ามออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่ นายหวังปี้เซิ่งกล่าวว่า ไม่ได้มีกฎห้ามออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง หากผู้ป่วยยังไม่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ก็ไม่จัดอยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตามอยากแนะนำให้ผู้ที่มีอาการและมีผล ATK เป็นบวกงดเว้นการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งก่อน เพื่อจะได้ไม่แพร่เชื้อให้กับผู้อื่น

     นอกจากนี้ กกต.ไต้หวันได้จัดเตรียมช่องทางพิเศษไว้สำหรับประชาชนที่มีไข้หรือมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการใช้สิทธิ์เลือกตั้งและลดโอกาสในการแพร่เชื้อแล้ว

     ไต้หวันเริ่มฉีดวัคซีน Bivalent ป้องกันสายพันธุ์ BA.5 ให้ประชาชนเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปัจจุบันยังมีวัคซีน Bivalent ป้องกันสายพันธุ์ BA.1 ที่จะหมดอายุในเดือนมีนาคมปีหน้าเหลืออยู่ในคลัง 1.2 ล้านโดส แต่เนื่องจากปัจจุบันไต้หวันพบการระบาดของสายพันธุ์ BA.5 เป็นหลัก จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์ BA.5 ไปก่อน ปัจจุบันทั่วโลกกำลังรับมือกับการสายพันธุ์ใหม่อย่าง XBB  ที่กลายพันธุ์ที่กลายพันธุ์มาจาก  BA.2 ไม่ว่าในอนาคตไต้หวันจะพบการระบาดของสายพันธุ์ใดรั ฐบาลมีวัคซีนรองรับอย่างแน่นอน และวัคซีน Bivalent ทุกรุ่นก็ล้วนมีประสิทธิภาพป้องกันได้มากกว่าวัคซีน monovalent รุ่นก่อนทั้งสิ้น