นายหวังปี้เซิ่ง(王必勝) ผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการควบคุมโรค (CECC) กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบัน เมื่อหักจำนวนประชากรอายุต่ำกว่า 20 ปีที่ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอยู่แล้ว คาดว่ายังมีประชาชนประมาณ 5-7 หมื่นคน ไม่สามารถออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่น 9 รายการ ในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ได้ เนื่องจากติดเชื้อไวรัสโควิด-19
สื่อตั้งคำถามว่าประชาชนผลตรวจเป็นบวก แต่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ มีกฎหมายที่ห้ามออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งหรือไม่ นายหวังปี้เซิ่งกล่าวว่า ไม่ได้มีกฎห้ามออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง หากผู้ป่วยยังไม่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ก็ไม่จัดอยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ อย่างไรก็ตามอยากแนะนำให้ผู้ที่มีอาการและมีผล ATK เป็นบวกงดเว้นการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งก่อน เพื่อจะได้ไม่แพร่เชื้อให้กับผู้อื่น
นอกจากนี้ กกต.ไต้หวันได้จัดเตรียมช่องทางพิเศษไว้สำหรับประชาชนที่มีไข้หรือมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการใช้สิทธิ์เลือกตั้งและลดโอกาสในการแพร่เชื้อแล้ว
ไต้หวันเริ่มฉีดวัคซีน Bivalent ป้องกันสายพันธุ์ BA.5 ให้ประชาชนเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปัจจุบันยังมีวัคซีน Bivalent ป้องกันสายพันธุ์ BA.1 ที่จะหมดอายุในเดือนมีนาคมปีหน้าเหลืออยู่ในคลัง 1.2 ล้านโดส แต่เนื่องจากปัจจุบันไต้หวันพบการระบาดของสายพันธุ์ BA.5 เป็นหลัก จึงแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันสายพันธุ์ BA.5 ไปก่อน ปัจจุบันทั่วโลกกำลังรับมือกับการสายพันธุ์ใหม่อย่าง XBB ที่กลายพันธุ์ที่กลายพันธุ์มาจาก BA.2 ไม่ว่าในอนาคตไต้หวันจะพบการระบาดของสายพันธุ์ใดรั ฐบาลมีวัคซีนรองรับอย่างแน่นอน และวัคซีน Bivalent ทุกรุ่นก็ล้วนมีประสิทธิภาพป้องกันได้มากกว่าวัคซีน monovalent รุ่นก่อนทั้งสิ้น
แหล่งข่าว:RTI
รายงานโดย:ธีรวัช จาง
แหล่งข่าว : Rti