วันที่ 24 พ.ย. ศกนี้ ไต้หวันจะจัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น 9 รายการ เช่นเดียวกับหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่คราวนี้คึกคักเป็นพิเศษ เพราะต้องจัดการลงประชามติพร้อมกันถึง 10 รายการ ในวันเดียวกัน อย่างการลงประชามติเพื่อเปลี่ยนชื่อทีมไต้หวันในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 จาก ไชนีสไทเป เป็น ไต้หวัน ภายใต้การนำของชีเช็ง สาวลมกรดไต้หวัน หากไม่ผ่านก็ใช้ชื่อเดิม หากผ่านการรับรองแล้วโอลิมปิกสากลไม่อนุมัติให้ไต้หวันเปลี่ยนชื่อ นักกีฬาไต้หวัน ก็จะไม่มีสิทธิเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งรัฐบาลไต้หวันจะต้องยื่นเรื่องนี้ต่อโอลิมปิกสากล ทำให้นักกีฬาไต้หวันไม่มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกโตเกียวและการแข่งขันระดับนานาชาติอื่น ๆ ด้วย
ส่วนการลงประชามติในประเด็นสมรสเพศเดียวกันหรือสมรสข้ามเพศ 2 รายการ ล้วนไม่กระทบต่อสิทธิในการสมรสระหว่างเพศเดียวกัน กลุ่มเพศทางเลือกเดินขบวนครั้งใหญ่ในไทเปเพื่อทวงสิทธิกการสมรสของกลุ่มของตน แต่ไม่ว่าผลการลงประชามติจะออกมาเป็นอย่างไร ก็เหมือนกัน คือยังคงมีสิทธิสมรสระหว่างบุคคลเพศทางเลือกได้เหมือนเดิม ตามการตีความรัฐธรรมนูญของกฤษฎีกา ในขณะที่ของสหรัฐฯ และเยอรมนีได้ระบุว่ หาก 2 ประเด็น ได้รับการรับรองเหมือนกัน ให้ยึดถือประเด็นที่ได้คะแนนมากกว่า ในขณะที่ไต้หวันยังคลุมเครือในเรื่องนี้
สำหรับประเด็นโครงการโรงไฟฟ้าเซินอ้าว รัฐบาลได้ประกาศยกเลิกโครงการไปแล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร โรงไฟฟ้าเซินอ้าว ก็ได้พับเก็บไปแล้ว
การลงประชามติในครั้งนี้ มีถึง 10 รายการ ทุบสถิติเท่าที่เคยมีมา แต่ผลการลงประชามติรัฐบาลต้องรับไปดำเนินการ ในขณะที่ไม่มีสิทธิที่จะไปบังคับใช้ อย่างเช่นกาลงประชามติเปิดบ่อนกาสิโนที่มัตสุ ผ่านการรับรองตั้งแต่ปี 2012 แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของฎหมายว่าด้วยบ่อนพนันไต้หวัน เท่ากับว่าเสียเวลาลงประชามติไปโดยเปล่าประโยชน์
เลือกตั้งท้องถิ่นไต้หวัน 24 พ.ย. 61 ลงประชามติอีก 10 รายการ ในภาพเป็นกลุ่มเรียกร้อง "ปิดตาย" โครงการโรงไฟฟ้าเซินอ้าว ที่่รัฐบาลได้ยกเลิกไปแล้ว
